วันพฤหัสบดีที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2553

(คน)เขียนดี (คน)อ่านก็มีความสุข

... เป็นเรื่องของเด็กขอทานตาพิการ ติดป้ายบอกผู้คนที่เดิมผ่านไปมาว่า “ช่วยผมด้วย ผมตา บอด” มีเหรียญอยู่ไม่กี่เหรียญในหมวกของเขา
ชายคนหนึ่งเดินผ่านมาบริจาคเงินให้แก่เด็กชาย ชายคนนั้นหยิบป้ายที่เด็กติดไว้ขึ้นมา เขาหมุนป้ายไปมา(เหมือนใช้ความคิด) และเขียนข้อความในป้ายเสียใหม่ แล้ววางป้ายไว้ในที่ที่ทุกคนมองเห็น ในไม่ช้าผู้คนที่ผ่านไปมาก็บริจาคเงินให้เด็กชายจนเต็มหมวก


บ่าย ๆ ชายคนเดิมเดินผ่านมาอีกครั้ง เด็กตาบอดจำเสียงฝีเท้าของชายคนนี้ได้ จึงร้องถามว่าเมื่อเช้าชายคนนั้นเป็นคนเปลี่ยนข้อความในป้ายใช่หรือไม่ และเขาเขียนข้อความอะไรที่ป้ายนั่น ชายผู้นั้นตอบว่า ฉันก็เขียนไปตามความเป็นจริง เขียนเหมือนที่เธอเขียน แต่ด้วยคำพูดที่ต่างออกไป ฉันเขียนว่า “วันนี้ช่างเป็นวันที่สวยงามเสียจริง แต่ผมไม่อาจมองเห็นความสวยงามนั้นได้”
ใช่ ป้ายทั้ง 2 ป้ายมีความหมายเดียวกัน คือบอกว่าเด็กขอทานนั่นตาบอด แต่ป้ายอันหลังบอกกับผู้คนว่าคุณ ๆ ช่างโชคดีเหลือเกินที่ตาของคุณไม่บอด (ในทางจิตวิทยาข้อความหลังให้ความสำคัญกับผู้อ่านมากกว่า คนจึงสนใจ โดยธรรมชาติมนุษย์สนใจตัวเองก่อนคนอื่น เช่น เวลาเราดูรูปหมู่เราจะดูรูปตัวเองก่อน-ผู้เขียน)
คติจากเรื่องนี้คือจงขอบคุณในสิ่งที่คุณมีอยู่ จงสร้างสรรค์ และนำเสนอสิ่งใหม่ ๆ คิดแตกต่าง และ คิดด้านบวก เชื้อเชิญผู้คนให้พบกับสิ่งที่ดีและความรู้ มีชีวิตอยู่โดยปราศจากข้อแก้ตัวใด ๆ รักโดยไม่ต้องเสียใจ เมื่อชีวิตมีเหตุผลเป็นร้อยที่ทำให้คุณต้องร้องไห้ แสดงให้ชีวิตเห็นว่าคุณมีเหตุผลเป็น พัน ๆที่จะยังยิ้มอยู่ได้ เผชิญกับอดึตอย่างไม่ทุกข์โศก ดูแลปัจจุบันของคุณอย่างมั่นใจ ตระเตรียมสำหรับอนาคตโดยไม่หวาดกลัว อย่ากลัวจงมีศรัทธา
มหาบุรุษพูดไว้ว่าชีวิตเป็นกระบวนการของการซ่อมและสร้างใหม่อย่างไม่รู้จบ ละความชั่ว สร้างความดี ถ้าต้องการดำเนินชีวิตอย่างไม่หวาดกลัว
คุณต้องมีความรู้สึกดีงามในใจ
สิ่งที่สวยงามที่สุดคือรอยยิ้มของผู้คน
แต่สิ่งที่งดงามยิ่งกว่า คือ...
การได้รู้ว่า เราคือเหตุแห่งรอยยิ้มนั้น

วันอังคารที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2553

กาละพัฒน์

กาละพัฒน์ ชื่อนี้มีความหมาย

นัยยะที่หนึ่ง หมายถึง ความงอกงามตามกาลเวลา

นัยยะที่สอง หมายถึง การออกมานอกกะลา เพื่อชื่นชมโลกที่ยิ่งใหญ่ โดยปราศจากความกลัว ความทุกข์ และมีความสุข

จากความหมายดังกล่าวจึงเป็นเครื่องเตือนใจสำหรับบุคลากรในโรงเรียนทุกคนที่ต่างเป็นทั้งผู้เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา อีกทั้งเป็นผู้สอนในเวลาเดียวกัน ซึ่งจะทำให้เข้าใจชีวิต และเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์มากขึ้น

วันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2553

มุมการเรียนรู้


การจัดสภาพแวดล้อมให้กับเด็กมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะช่วยส่งเสริมพัฒนาการ ทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา หากจัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมจะเอื้อต่อการเรียนรู้ของเด็ก ซึ่งการจัดสภาพแวดล้อมให้กับเด็ก นั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจัดให้เหมาะสม สอดคล้องกับวัยและธรรมชาติของเด็ก


การจัดมุมเสริมทักษะ และการพัฒนาเด็ก (มุมประสบการณ์)
มุมเสริมทักษะและการพัฒนาการเด็กหรือมุมประสบการณ์ เป็นสถานที่จัดไว้ในห้องเรียนเพื่อให้เด็กได้เล่นสื่อและเครื่องเล่นประเภทต่างๆ โดยมุมเสริมทักษะและการพัฒนาการเด็ก (มุมประสบการณ์) จะมีสื่อและเครื่องเล่นจัดไว้ให้เด็กได้เล่น ซึ่งแต่ละมุมประสบการณ์จะมีลักษณะแตกต่างกัน ภายในห้องเรียนควรจัดมุมประสบการณ์ให้เด็กเล่นอย่างน้อย 5 มุมประสบการณ์ ทั้งนี้ ควรจัดมุมสงบกับมุมที่ส่งเสียงดัง ไว้ห่างกัน มุมที่เด็กต้องใช้สมาธิในการเล่นหรือทำกิจกรรมควรอยู่ใกล้กัน มุมที่เล่นแล้วทำให้เกิดเสียงดังก็ควรอยู่ใกล้กัน เช่น มุมหนังสือกับ มุมเกมการศึกษาอยู่ใกล้กันได้ มุมศิลปะกับมุมบล็อกอยู่ใกล้กัน เป็นต้น

เรื่องของดินสอกับยางลบ






ทำไมบนดินสอถึงต้องมียางลบ ?




...เป็นคำถามที่บางคนบอกว่าไร้สาระมากเอามาถามทำไม...

บางคนก็ตอบว่า ก็เอาไว้กัดเล่น บ้างก็ว่ามีไว้เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน

แต่คำตอบที่แท้จริงนั้นกลับแฝงไปด้วยแง่คิดและเหตุผลของมัน...คำตอบคือ

...คนเราสามารถผิดพลาดกันได้....

เมื่อคนเรามีข้อผิดพลาด ก็สามารถแก้ไขให้ดีขึ้นได้ โดยการลบแล้วเขียนขึ้นใหม่ ตั้งใจ และพยายามมากขึ้นแต่ก็ไม่ควรให้ยางลบหมดก่อนดินสอ...เพราะมันบ่งบอกถึงความผิดพลาดที่มีมากมายจนเกินไป...

นี่คือเรื่องราวของดินสอและยางลบ

ดินสอแท่งนั้น กับ ยางลบก้อนนั้นเป็นเพื่อนกัน ไปไหนมาไหนด้วยกันทำอะไรก็ทำด้วยกัน หน้าที่ของดินสอก็คือเขียน มันเขียนทุกที่ทุกอย่างเสมอที่อยู่กับยางลบ หน้าที่ของยางลบคือลบ มันจึงลบทุกอย่างที่ดินสอเขียนทุกที่ทุกเวลา ผ่านไปนานหลายสิบปีทุกอย่างก็ยังดำเนินเหมือนเดิมตลอดเวลา จนกระทั่งดินสอเอ๋ยกับยางลบว่า "เรากับนายคงอยู่ด้วยกันไม่ได้แล้ว" ยางลบจึงถามว่า "ทำไมละ" ดินสอจึงตอบกลับไปว่า "เราเขียนแล้วนายลบมันก็ไม่เหลืออะไรเลย" ยางลบจึงเถียงกลับไปว่า "เราทำหน้าทีของเรา เราไม่ผิด" ทั้งคู่จึงแยกทางกัน ดินสอพอแยกทางกับยางลบมันก็ดีใจมากที่ได้เขียนอะไรก็ได้ตามใจมัน แต่พอเวลาผ่านไปมันเริ่มเขียนผิดข้อความที่สวย ๆ ที่มันเคยเขียนได้ก็เริ่มสกปรกมีแต่รอยขีดทิ้งเต็มไปหมด มันคิดถึงยางลบจับใจ... ยางลบพอมันแยกทางกับดินสอมันก็ดีใจที่ตัวมันไม่ต้องเปื้อนอีกต่อไป พอเวลาผ่านไปมันกลับใช้ชีวิตอย่างไร้ค่าเพราะไม่มีอะไรให้ลบ มันคิดถึงดินสอจับใจ...
ทั้งคู่จึงกลับมาอยู่ด้วยกันใหม่ คราวนี้ดินสอเขียนน้อยลง เขียนแต่สิ่งดีดี...ส่วนยางลบก็ลบเฉพาะสิ่งที่ดินสอเขียนผิดเท่านั้น


ขนมต่างๆ จากกล้วย





กล้วยฉาบ กล้วยแขก และตำปลีกล้วย อีกหนึ่งชิ้นผลงานเด่นของพี่่ๆอนุบาล 2

ประโยชน์จากการฝึกให้เด็กได้ทำอาหาร

1. เป็นการสร้างความสนุกสนาน

2.การเรียนรู้เหตุผลและกระบวนการ อย่างน้อยที่สุดเด็กจะได้เรียนรู้ว่าอาหารนี้ี้
มีที่มาที่่ไปอย่างไรต้องผ่านขั้นตอนอย่างไรบ้างกว่าจะออกมาหน้าตาอย่างที่เห็น เด็กจะได้เรียนรู้เรื่องเหตุและผล ได้เรียนรู้เรื่องกระบวนการ ที่เป็นขั้นตอน

3. เป็นการฝึกทักษะการใช้มือ การได้นวดได้ปั้น การหยิบช้อนตักหรือคนอาหาร

4.ได้เรียนรู้เรื่องการเข้าสังคมการช่วยเหลือเกื้อกูล และกระบวนการทำงานเป็นทีม

5.ฝึกให้มีความรับผิดชอบ การทำอาหารคือการฝึกความรับผิดชอบให้เด็กๆ เด็กๆจะรู้ว่าสิ่งที่เขากำลังทำนี้ อีกสักครู่หนึ่งจะกลายเป็นอาหารหนึ่งจานที่เป็นฝีมือของพวกเขาเอง เด็กๆ จะตั้งใจทำ

6.ฝึกความมีระเบียบวินัยเตรียมภาชนะสำหรับใส่เศษอาหาร เตรียมกะละมังใส่ถ้วยชามที่ใช้แล้ว

7.ฝึกความคิดสร้างสรรค์ และความเป็นตัวของตัวเอง เช่น การหั่นกล้วย การเติมส่วนผสม เครื่องปรุงแต่ง ตามความชอบและจินตนาการของเขาเอง

วันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ละครปรับพฤติกรรม

วันนี้คณะครูโรงเรียนกาละพัฒน์ได้สร้างสรรค์ละครเพื่อปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร โดยเลือกรับประทานอาหารดีมีประโยชน์ สามารถชมละครและร่วมแสดงความคิดเห็น
ได้ที่นี้ค่ะ


วันพฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2553

นิทาน


ปัจจุบันนิทานนับเป็นเครื่องมือที่จะช่วยส่งเสริมพัฒนาไอคิวและอีคิวของเด็กให้สูงขึ้น เพราะนิทานนอกจากจะช่วยพัฒนาทักษะการฟัง การพูด ให้ความรู้ความสนุกสนาน จินตนาการแก่เด็กแล้ว นิทานยังช่วยฝึกสมาธิให้เด็กรู้จักสำรวมใจให้จดจ่ออยู่กับเรื่องที่ฟัง ซึ่งเป็นพื้นฐานการเตรียมความพร้อมด้านการอ่านหนังสือ และปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้เด็กไปพร้อมกันส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการไอคิว อีคิวที่ดีตามมา

การเตรียมความพร้อม และพัฒนาสมองของเด็ก โดยคุณครูหรือพ่แม่สามารถกระทำได้โดยใช้เวลาไม่นานนัก อ่านหนังสือหรือเล่านิทานด้วยคำพูดของเราเอง ด้วยภาษาที่ดีจากหนังสือภาพ เด็กก็จะรับรู้ภาษา และความรู้สึกผ่านการออกเสียงของคนเล่า

เทคนิคการอ่านนิทาน
เพียงแค่จับหนังสือให้อยู่ในระดับสายตาของเด็ก ให้เด็กได้เห็นหนังสือทุกส่วนมากที่สุด

การอ่านจะทำให้เด็กรู้จักและเข้าใจภาษาทางวรรณกรรมมากขึ้น ซึ่งเป็นภาษาที่สวยงาม เช่นคำว่า ตะวันลับขอบฟ้า ธารน้ำใส ขณะที่อ่านควรอ่านออกเสียงให้ดังพอประมาณให้เด็กได้ยิน และที่สำคัญควรอ่านให้ถูกอักขระออกเสียงให้ชัดเจน ทั้งตัว ร, ล และคำควบกล้ำ ควรออกเสียงให้ถูกต้อง เพราะเด็กจะได้ฟังภาษาที่ถูกต้อง

ควรอ่านด้วยน้ำเสียงที่เป็นธรรมชาติ มีชีวิตชีวา เหมือนกับตัวละครมากที่สุด การดัดเสียง หากทำให้อักขระผิดเพี้ยนไปก็ไม่ควรดัดเสียง เพราะเด็กจะไม่ได้รับประโยชน์ และผู้อ่านหนังสือจะเบื่อเสียเอง

การอ่านหนังสือให้เด็กฟัง ควรอ่านให้เนื้อเรื่องติดต่อกันไปตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ควรหยุดเพื่ออธิบายหรือสอนอะไรมาก เพราะเด็กจะเกิดความเบื่อหน่าย และไม่มีสมาธิต่อเนื่อง

การเรียนรู้และพัฒนาคุณครู จึงเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียด

วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2553

การไหว้


การไหว้ เป็นวัฒนธรรมอันดีงามของเมืองไทย

เมื่อพบเจอกันเราทักทายกัน ด้วย การสวัสดี

เมื่อมีคนทำให้เรารู้สึกพึงพอใจ เราก็พนมมือไหว้

การไหว้จะทำให้มนุษย์เคารพตัวเองและย่อมรับบุคคลอื่น

การไหว้ไม่ต้องซื้อและไม่มีขาย อยากได้ช่วยกันสร้างเอง

วัฒนธรรมอันดีนี้ มาช่วยกันสืบทอดให้คงอยู่ตลอดไป

วันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2553

กีฬาสี "สานสัมพันธ์"

โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนาได้จัดกิจกรรม "สานสัมพันธ์ครอบครัวลำปลายมาศ" เป็นกิจกรรมที่สร้างความสามัคคี เพื่อให้เด็กๆ ผู้ปกครองและคณะครู ได้สานสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

กิจกรรมที่ทำจะมีการแข่งกีฬาประเภทต่างๆ การเล่นเพื่อความสนุกเพลิดเพลิน เพื่อความแข็งแรงของร่างกาย และผ่อนคลายความเคร่งเครียดทางจิต






การแสดงเปิดสนามของนักเรียนสภา










ผู้ปกครองและครูร่วมกันแข่งกีฬาสกีบก

วันพุธที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2553

คุณครูคนใหม่(ครูนิก)



ชื่อ นางสาววรรธนา
นามสกุล แดงทองเกลี้ยง
ชื่อเล่น ครูนิก
วัน เดือน ปีเกิด ๑๘ กันยายน ๒๕๒๙
ภูมิลำเนา ต.ตาชี อ.ยะหา จ.ยะลา
ที่อยู่ปัจจุบัน ๙๕ หมู่ ๑ ถ.เทพกระษัตรี ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต ๘๓๐๐๐
การศึกษา
ประถมศึกษา โรงเรียนบ้านตาชี
มัธยมศึกษา โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จ.ยะลา
อุดมศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต วท.บ. สาธารณสุขชุมชน

ประวัติการทำงาน TAKUAPA X-RAY COMPUTER จ.พังงา สำนักงานเทศบาลเมืองป่าตอง

วันจันทร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ประสบการณ์สร้างสรรค์ผลงาน

ผลงานที่น่ารักนี้ เกิดจากการสร้างสรรค์ของเด็กตัวเล็กวัยอนุบาล 1
เป้าหมายที่ทำ คือ ความรู้สึก
เพียงแค่เด็กๆ ได้ทำตามความรู้สึกของตัวเอง ชอบอะไร หรือคิดถึงอะไร ก็ทำอย่างที่คิด
เจ้าของผลงานเล่าว่า "นี่เป็นเจ้าแมลงคราม ผมเห็นมันที่ต้นไม้ข้างๆ ทาง มันใช้เขาต่อสู้กันอยู่บนต้นไม้ ใช้เขางัดกันไปมาอยู่บนกิ่งไม้เล็ก แต่ไม่มีตัวไหนตกลงมาเลย ตัวมันสีดำๆ ลื่นๆ "
เขาปั้นไปยิ้มไป ชวนเพื่อนคุยถึงเจ้าสิ่งนี้อย่างมีความสุขระหว่างที่นิ้วมือน้อยๆ กำลังบีบดินน้ำมันให้เป็นรูปร่างของประสบการณ์

ผลงานที่ออกมา คือความภูมิใจในความมุ่งมั่นตั้งใจของตนเอง ความสุขที่ได้แบ่งปันประสบการณ์ออกมาเป็นรูปร่าง
"ประสบการณ์ช่วยสร้างสรรค์ผลงาน"